เมนู

อุบาสกวรรคที่ 5


1. กามโภคีสูตร


ว่าด้วยกามโภคีบุคคล 10 จำพวก


[91] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ ณ พระวิหาร
เชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้ง
นั้นแล ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดี เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้ายังที่
ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะอนาถบิณฑิกคฤหบดีว่า กามโภคี-
บุคคลมีอยู่ในโลก 10 จำพวก 10 จำพวกเป็นไฉน คือ กามโภคีบุคคล
บางตนในโลกนี้ แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ ครั้น
แสวงหาได้แล้ว ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำ
บุญ 1 กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ แสวงหาทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม
โดยทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แต่
ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ 1 กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ แสวงหา
โภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยง
ตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่ายกระทำบุญ 1 กามโภคีบุคคลบางคน
ในโลกนี้ แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม และไม่ชอบธรรม โดย
ทารุณบ้าง ไม่ทารุณบ้าง ครั้นแสวงหาได้แล้ว ไม่เลี้ยงคนให้เป็นสุข
ให้อิ่มหนำ ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ 1 กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้
แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรมและไม่ชอบธรรม โดยทารุณบ้าง ไม่
ทารุณบ้าง ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แต่

ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ 1 กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ แสวงหา
โภคทรัพย์โดยชอบธรรมและไม่ชอบธรรม โดยทารุณบ้าง ไม่ทารุณบ้าง
ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่ายกระทำ
บุญ 1 กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม
โดยไม่ทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ
ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ 1 กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมแสวง
หาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อม
เลี้ยงคนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แต่ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ 1 กาม-
โภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่
ทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจก
จ่ายกระทำบุญ แต่เป็นผู้กำหนัด หมกมุ่น จดจ่อ ไม่เห็นโทษ ไม่มี
ปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภคโภคทรัพย์นั้น 1 กามโภคีบุคคลบางคน
ในโลกนี้ เสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ครั้นแสวงหา
ได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่าย กระทำบุญ และ
เป็นผู้ไม่กำหนัด ไม่หมกมุ่น ไม่จดจ่อ เห็นโทษ มีปัญญาเป็นเครื่อง
สลัดออก บริโภคโภคทรัพย์นั้น 1.
ดูก่อนคฤหบดี ในกามโภคีบุคคล 10 จำพวกนี้ กามโภคีบุคคลผู้
แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว
ย่อมไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ กาม-
โภคีบุคคลนี้ ควรติเตียนโดย 3 สถาน คือ ควรติเตียนโดยสถานที่ 1
ว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ ควรติเตียนโดย
สถานที่ 2 ว่า ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ควรติเตียนโดยสถาน

ที่ 3 ว่า ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ ควรตีเตียนโดย
3 สถานนี้.
กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ
ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แต่ไม่แจกจ่าย
ไม่กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ ควรติเตียนโดย 2 สถาน ควรสรรเสริญ
โดย 1 สถาน คือ ควรติเตียนโดยสถานที่ 1 ว่า แสวงหาโภคทรัพย์
โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ ควรสรรเสริญโดยสถานเดียวว่า เลี้ยงตน
ให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ควรติเตียนโดยสถานที่ 2 ว่า ไม่แจกจ่าย ไม่
ทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ ควรติเตียนโดย 2 สถานนี้ ควรสรรเสริญ
โดย 1 สถานนี้.
กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ
ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่ายกระทำ
บุญ กามโภคีบุคคลนี้ ควรติเตียนโดย 1 สถาน ควรสรรเสริญโดย 2 สถาน
คือ ติเตียนโดย 1 สถานว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดย
ทารุณ ควรสรรเสริญโดยสถานที่ 1 ว่า เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ
ควรสรรเสริญโดยสถานที่ 2 ว่า แจกจ่าย กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้
ควรติเตียนโดย 1 สถาน ควรสรรเสริญโดย 2 สถานนี้ .
กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรมและไม่ชอบ-
ธรรม โดยทารุณบ้าง ไม่ทารุณบ้าง ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมไม่เลี้ยงตน
ให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ ควร
สรรเสริญโดย 1 สถาน ควรติเตียนโดย 3 สถาน คือ สถานสรรเสริญโดย 1
สถานว่า แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ควรติเตียน
โดยสถานที่ 1 ว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ ควร

ติเตียนโดยสถานที่ 2 ว่า ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ควรติเตียน
โดยสถานที่ 3 ว่า ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ควรสรรเสริญ
โดย 1 สถานนี้ ควรติเตียนโดย 3 สถานนี้.
กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรมและไม่ชอบ-
ธรรม โดยทารุณบ้าง ไม่ทารุณบ้าง ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตน
ให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แต่ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้
ควรสรรเสริญโดย 2 สถาน ควรติเตียนโดย 2 สถาน คือ ควรสรรเสริญ
โดยสถานที่ 1 ว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ควร
ติเตียนโดยสถานที่ 1 ว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ
ควรสรรเสริญโดยสถานที่ 2 ว่า เลี้ยงคนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ควร
ติเตียนโดยสถานที่ 2 ว่า ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้
ควรสรรเสริญโดย 2 สถานนี้ ควรติเตียนโดย 2 สถานนี้.
กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรมและไม่ชอบ
ธรรม โดยทารุณบ้าง ไม่ทารุณบ้าง ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตน
ให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่าย กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญ
โดย 3 สถาน ควรติเตียนโดย 1 สถาน ควรสรรเสริญโดยสถานที่ 1 ว่า
แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ควรติเตียนโดย 1
สถานว่า แสวงหาโภคทรัพย์ โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ ควรสรรเสริญ
โดยสถานที่ 2 ว่า ย่อมเลี้ยงตนให้ เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ควรสรรเสริญโดย
สถานที่ 3 ว่า แจกจ่าย กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญ
โดย 3 สถานนี้ ควรติเตียนโดย 1 สถานนี้.

กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ
ครั้นแวงหาได้แล้ว ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ไม่แจกจ่าย ไม่
กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ควรสรรเสริญโดย 1 สถาน ควรติเตียนโดย 2
สถาน คือควรสรรเสริญโดย 1 สถานว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม
โดยไม่ทารุณ ควรติเตียนโดยสถานที่ 1 ว่า ไม่เลี้ยงคนให้เป็นสุข ให้
อิ่มหนำ ควรติเตียนโดยสถานที่ 2 ว่า ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ กาม-
โภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย 1 สถานนี้ ควรติเตียนโดย 2 สถานนี้.
กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ
ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แต่ไม่แจกจ่าย
ไม่กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย 2 สถาน ควรติเตียน
โดย 1 สถาน คือ ควรสรรเสริญ โดยสถานที่ 1 ว่า แสวงหาโภคทรัพย์
โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ควรสรรเสริญโดยสถานที่ 2 ว่า ย่อมเลี้ยง
ตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ควรติเตียนโดย 1 สถานว่า ไม่แจกจ่าย ไม่
กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย 2 สถานนี้ ควรติเตียน
โดย 1 สถานนี้.
กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ
ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่าย กระทำ
บุญแต่เป็นผู้กำหนัด หมกมุ่น จดจ่อ ไม่เห็นโทษ ไม่มีปัญญาเป็นเครื่อง
สลัดออก บริโภคโภคทรัพย์นั้น กามโภคีบุคคลนี้ควรสรรเสริญโดย 3
สถาน ควรติเตียนโดย 1 สถาน คือ ควรสรรเสริญโดยสถานที่ 1 ว่า
แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ควรสรรเสริญโดยสถาน
ที่ 2 ว่า ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ควรสรรเสริญโดยสถานที่ 3

ว่า แจกจ่าย กระทำบุญ ควรติเตียนโดย 1 สถานว่า เป็นผู้กำหนัด หมกมุ่น
พัวพัน ไม่เห็นโทษ ไม่มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภคโภคทรัพย์
นั้น กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย 3 สถานนี้ ควรติเตียนโดย 1
สถานนี้.
กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ
ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่ายกระทำ
บุญ และไม่กำหนัด ไม่หมกมุ่น ไม่จดจ่อ เห็นโทษ มีปัญญาเป็นเครื่อง
สลัดออก บริโภคโภคทรัพย์นั้น กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย 4
สถาน คือ ควรสรรเสริญโดยสถานที่ 1 ว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบ
ธรรม โดยไม่ทารุณ ควรสรรเสริญโดยสถานที่ 2 ว่า ย่อมเลี้ยงคนให้
เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ควรสรรเสริญสถานที่ 3 ว่า แจกจ่าย กระทำบุญ
ควรสรรเสริญ โดยสถานที่ 4 ว่า เป็นผู้ไม่กำหนัด ไม่หมกมุ่น ไม่พัวพัน
เห็นโทษ มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภคโภคทรัพย์นั้น กามโภคี-
บุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย 4 สถานนี้.
ดูก่อนคฤหบดี กามโภคีบุคคล 10 จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก
บรรดากามโภคีบุคคล 10 จำพวกนี้ กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์
โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็น
สุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่าย กระทำบุญ และเป็นผู้ไม่กำหนัด ไม่หมกมุ่น
ไม่จดจ่อ เห็นโทษ มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภคโภคทรัพย์นั้น
นี้เป็นผู้เลิศ ประเสริฐ เป็นใหญ่สูงสุด ดีกว่ากามโภคีบุคคล 10 จำพวกนี้
ดูกรคฤหบดี นมสดเกิดจากแม่โค นมส้มเกิดจากนมสด เนยข้นเกิดจาก
นมส้ม เนยใสเกิดจากเนยข้น หัวเนยใสเกิดจากเนยใส หัวเนยใสโลก

กล่าวว่า เลิศกว่านมสดเป็นต้นเหล่านั้น ฉันใด กามโภคีบุคคลผู้แสวงหา
โภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยง
ตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่าย กระทำบุญ และเป็นผู้ไม่กำหนัด
ไม่หมกมุ่น ไม่จดจ่อ เห็นโทษ มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภค
โภคทรัพย์นั้น นี้เป็นผู้เลิศ ประเสริฐเป็นใหญ่สูงสุด ดีกว่ากามโภคี-
บุคคล 10 จำพวกนี้ ฉันนั้น.
จบกามโภคีสูตรที่ 1

อุบาสกวรรคที่ 5


อรรถกถากามโภคีสูตรที่ 1


วรรคที่ 5 กามโภคีสูตรที่ 1

พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า สาหเสน ได้แก่ กรรมอันหยาบ.
จบอรรถกถากามโภคีสูตรที่ 1

2. เวรสูตร


ว่าด้วยอริยสาวกระงับภัยเวร 5 ประการ


[92] ครั้งนั้นแล อนาถบิณฑิกคฤคดีเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค-
เจ้ายังที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วน
ข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะอนาถบิณฑิกคฤหบดีว่า
ดูก่อนคฤหบดี เพราะเหตุที่อริยสาวกเข้าไประงับภัยเวร 5 ประการเสีย
ได้แล้ว เป็นผู้ประกอบด้วยองค์เครื่องบรรลุกระแสนิพพาน 4 ประการ
และเป็นผู้เห็นแจ้งแทงตลอดญายธรรมอันเป็นอริยะด้วยปัญญา อริยสาวก